วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

[Tsukiuta] Another person in a dream ::Hajime x Hajime



-Tsukiuta
-Yaoi
-AU
-Hajime x Hajime
-R-15+

ผีเสื้อสีม่วงกำลังกระพือขยับปีกโบยบินอย่างงดงามในท่ามกลางห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆห้องหนึ่ง

ไร้ซึ่ง'ทางออก'

ไร้ซึ่ง'อิสรภาพ'

ไร้ซึ่ง'แสงสว่าง'

มีเพียงแสงสว่างจากเทียนเล่มเล็กๆที่รายล้อมรอบห้องทั้งหมดเพียง5เล่มเท่านั้น กลางห้องนั้นมีเตียงนอนโครงเหล็กตั้งอยู่ท่ามกลางความมืด

'อ...อ่าห์'
เสียงครางทุ้มต่ำดังเล็ดลอดออกมาจากปากเรียวได้รูปของ'มุทสึกิ ฮาจิเมะ'หรือ'ท่านราชา'ที่กำลังถูกล่ามโซ่ที่คอ แขนและขาทั้งสองข้างเอาไว้บนเตียง ดวงตาทั้งสองถูกปกปิดด้วยผ้าสีทึบทำให้เขามองไม่เห็นบรรยากาศรอบๆ มีแต่ความมืดเท่านั้นที่เขามองเห็น....

'ฮาจิเมะ....ครางให้มากกว่านี้สิ'
เสียงปริศนาที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นมา พร้อมกับออกแรงดึงกระชากโซ่ให้ร่างของฮาจิเมะได้ใกล้ชิดกับบุคคลปริศนานั่นมากขึ้น

'อึก!..อ๊ะ!?'

'ดีมากเด็กดี...'

'ทำตัวน่ารักแบบนี้ ท่านราชาคนนี้คงต้องให้รางวัลฮาจิเมะซะแล้วสิ'
.
.
.
.
.
.
.
"!!!!"
ฮาจิเมะเบิกตากว้างรีบสะดุ้งลุกขึ้นจากเตียงหลังจากที่เขาตื่นจากความฝัน สียงหอบหายใจดังขึ้นต่อเนื่องในยามนี้ร่างกายของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อมากมายนับไม่ถ้วน ราวกับคนที่เพิ่งวิ่งเสร็จไปหมาดๆนี่เอง


"ฝันเรื่องนี้อีกแล้ว...." ร่างกายของเขาสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว 


"เมื่อไหร่จะหยุดซักที...."ฮาจิเมะเอ่ยพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่สั่นเครือ เมื่อสงบสติอารมณ์ของตนเองได้เรียบร้อยไม่ลืมที่จะเหลือบมองดูเรือนนาฬิกาข้างผนังห้อง

"06:09 น. แล้วงั้นหรอ...."
 ฮาจิเมะผ่อนลมหายใจอีกครั้งเพื่อความผ่อนคลายของตนเอง จากนั้นเขาจึงได้ลุกขึ้นออกจากเตียงนอนหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วไปยังห้องอาบน้ำพร้อมกับแต่งตัวอยู่ในนั้นให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนที่จะออกจากห้องตนเองแล้วมุ่งหน้าไปยังโรงเรียน

มุทสึกิ ฮาจิเมะ เป็นนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายปี3ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว เขาเป็นที่รู้จักของใครหลายๆคนทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ทุกคนส่วนใหญ่จะรู้จักเขาในนามเจ้าของฉายา'ราชาสีดำ' เพราะได้ฉายานี้มาทำให้ฮาจิเมะต้องคอยเก๊กตลอดเวลา...



07:49น.
"ฮาจิเมะวันนี้ดูไม่ค่อยดีเลยนะ เป็นอะไรรึ้ปล่า?"
ยาโยอิ ฮารุ เพื่อนสนิทของฮาจิเมะได้ทักขึ้นมาหลังจากที่เขาเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาในห้องแล้วฟุบหน้าลงบนโต๊ะเรียนทันที

"เปล่าไม่มีอะไร แค่นอนดึกเฉยๆน่ะ..."
เขาตอบปัดฮารุไป ดูเหมือนฮารุจะไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะรู้ตัวดีว่าเพื่อนคนนี้ของเขาไม่คิดจะยอมปริปากออกมาถ้าอีกฝ่ายไม่อยากจะบอก

"งั้นหรอ..ดีแล้วล่ะ" ฮารุกำลังจะหันกลับ แต่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกจึงเลือกที่จะคุยกับฮาจิเมะต่อ

"จริงด้วยฮาจิเมะ!"

"หืม...?"

"เมื่อวันก่อนนายไปทำอะไรที่บาร์เกย์น่ะฮาจิเมะ?"
ทันทีที่ฮารุถามจบ ฮาจิเมะก็ได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

"ฮารุ นายพูดเรื่องอะไร?"ฮาจิเมะเอ่ยปากถามฮารุด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจปะปนกันไป

"ก็ฉันถามว่าเมื่อวันก่อนนายไปทำอะไรที่บาร์เกย์แถวๆย่านxน่ะฮาจิเมะ ฉันเห็นนะ"เมื่อได้ฟังคำพูดจากปากผู้เป็นเพื่อนเขายิ่งขมวดคิ้วเข้าไปกันใหญ่

"ฮารุ เมื่อวันก่อนฉันอยู่แต่ในหอนะ...จะไปอยู่ที่แบบนั้นได้ไง?"

"งั้นหรอ หรือฉันมองผิดไปนะ?"

"แต่ว่าฉันเห็นเป็นนายจริงๆนะฮาจิเมะ"

"สงสัยนายลืมเช็ดแว่นแน่ๆเลยฮารุ วันหลังเช็ดแว่นซะบ้างนะฮารุ"พูดจบฮาจิเมะก็เอื้อมมือไปดันแว่นฮารุให้เกือบตกแต่โชคดีที่เจ้าของแว่นรับไว้ทัน เขารู้ว่าอีกคนคงจะโวยวายแล้วคงนิ่งๆไม่ถือสาเขาเช่นเดิม

ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ฟุบลงบนโต๊ะเรียน พร้อมกับในหัวพลางคิดเรื่องที่ฮารุพูดขึ้น

'เมื่อวันก่อนนายไปทำอะไรที่บาร์เกย์น่ะฮาจิเมะ?'
เขาไปที่บาร์เกย์งั้นหรอ เขาจำได้ว่าเขาอยู่กับเจ้ากระต่ายยักษ์ตลอดนี่?

'แต่ว่าฉันมองเห็นเป็นนายจริงๆนะฮาจิเมะ'
ฺฮารุคงจะพูดหยอกให้เขาอารมณ์ดีขึ้นล่ะมั้ง แต่บางทีฮารุก็เล่นแรงไปนะ เห็นเขาไปโผล่ที่บาร์เกย์แบบนี้หรอ เกินไปแล้วนะฮารุ....คนอย่างเขาเหมาะจะไปที่แบบนั้นรึไงกัน?

หรือบางที....ฮารุอาจจะพูดจริงก็ได้?

เจ้านั่นไม่เคยโกหกเขา

แต่ว่า....

จะเชื่อได้รึเปล่านะ?


17:50 น.
ท้องฟ้าในยามนี้เริ่มเปลี่ยนสีเรื่อยๆจนมันเข้าสู่สีรัตติกาลในที่สุด เรียวขาค่อยๆก้าวไปตามเส้นทางบนถนนย่านxที่รายล้อมไปด้วยแสงสีจากสถานที่ท่องเที่ยวในย่านx

วันนี้เป็นวันศุกร์...เขายังไม่รีบอยากจะกลับหอเท่าไหร่ เขาจึงเลือกที่จะออกมาเดินเล่นก่อนที่จะกลับไป..

ระหว่างที่เดินเล่นไปตามเส้นทาง ฮาจิเมะก็ตกอยู่ในห้วงความคิดของเขาเอง ในห้วงความคิดนั่นมีทั้งเรื่องการเรียน เรื่องครอบครัว รวมทั้งไปถึงเรื่องที่ฮารุพูดและความฝันนั่นด้วย....

'ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว...'

'หาอะไรกินดีกว่า...'

'เอ๊ะ!?'

เมื่อฮาจิเมะเงยหน้าขึ้นตื่นจากห้วงความคิดของตนเอง เขาก็พบบุคคลปริศนา...อีกฝ่ายผมสีม่วงดำรัตติกาล ส่วนสูงของเขาคนนั้น น่าจะสูงพอประมาณเกือบๆเท่าเขา บุคลิกภายนอกเหล่านั้นช่างคล้ายคลึงกับผู้ที่ได้ครองฉายา'ท่านราชาสีดำ'เหลือเกิน....ราวกับว่าอีกฝ่ายนั้นคือเขานั่นเอง...

คิดได้ดังนั้นฮาจิเมะก็เลือกที่จะวิ่งตามอีกฝ่ายไปแต่เหมือนเขาจะรู้ว่ามีคนตามมาทำให้ต้องเร่งฝีเท้าเพิ่มความเร็วหนีอีกฝ่ายไปในซอกตึก

ฮาจิเมะเห็นดังนั้นก็วิ่งตามอีกคนไปในซอกตึกเช่นกัน แต่ทว่า...ตรงนั้นเป็นทางตัน ไม่สามารถหนีขึ้นทางไหนไปได้เลย

"ห หายไปไหนกัน"เสียงพึมพำดังขึ้นมาก่อนที่จะใช้สายตากวาดมองหาให้ทั่ว

'ไม่มี?'

'หายไปอยู่ไหน?'คิ้วเรียวขมวดกันจนเป็นปมไม่ลืมที่จะกวาดสายตามองไปดูรอบๆด้วย

ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังมองหา จู่ๆก็เหมือนมีเสียงบางอย่างลอยมากระซิบที่ข้างหูของฮาจิเมะ

'กำลังหาฉันอยู่งั้นหรอฮาจิเมะ...'
เขาเบิกตากว้างขึ้นแล้วรีบหันไปมองที่มาจากต้นเสียง แต่ไม่ว่าหันไปทางไหนเขาก็ไม่พบกับอะไรเลย

"เมื่อกี้มันอะไรกัน?"เขาพึมพำกับตนเอง คิ้วขมวดเข้าหากันมากยิ่งขึ้น

เมื่อพบว่าไม่มีอะไร ฮาจิเมะจึงเลือกที่จะกลับออกจากซอกตึกนี่ เมื่อกำลังจะก้าวเท้าเดินออก เหมือนกับมีอะไรบางอย่างมารั้งเขาเอาไว้...

'เอ๊ะ?'
ทั้งที่มันเป็นแค่ความรู้สึกแท้ๆ แต่มันก็ทำให้ฮาจิเมะไม่สามารถก้าวเท้าเดินออกไปจากซอกตึกนี้ได้ ก่อนที่เปลี่ยนแปรผันเป็นความรู้สึกบางอย่าง ราวกับตนเองกำลังถูกลวนลาม

'ย หยุดนะ!'
ต้นขาที่รู้สึกว่าเหมือนกำลังโดนลูบไล้ ยอดอกที่รู้สึกเหมือนกำลังถูกหยอกล้อ ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้ฮาจิเมะแทบจะทรุดกองลงไปนั่งกับพื้น

'อือ! บอกให้หยุดไงเล่า!'
เหมือนความรู้สึกเหล่านั้นจะไม่รับฟังคำขอของเขาเท่าไหร่ มันยังคงปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆราวกับไม่มีวันจะจบสิ้น

ฮาจิเมะเริ่มรู้สึกได้ว่าส่วนล่างของเขากำลังถูกเล้าโลม ทั้งที่เป็นเพียงแค่ความรู้สึกแท้ๆ แต่มันก็กลับทำให้เขาอ่อนระทวยได้ขนาดนี้เลยงั้นหรอ?

ช่างเป็นความรู้สึกที่น่ากลัวมากจริงๆ...

'ทำไมไม่หยุดล่ะ บอกให้หยุดไง!'
ความรู้สึกเหล่านั้นปรากฏขึ้นได้ไม่นาน มันก็หายไปตามคำเรียกร้องของเขา

"ความรู้สึกเมื่อกี้มันอะไรกัน..."ฮาจิเมะได้แต่นั่งพักหายใจ เหงื่อไหลไปทั่วใบหน้าของเขา นัยน์ตาสีม่วงทมิฬกวาดมองดูพื้นที่รอบๆ เป็นความโชคดีที่ไม่มีใครมาเห็นฮาจิเมะในสภาพแบบนี้

"เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรานะ..."
เขาได้ตั้งตั้งคำถามกับตัวเองเบาๆ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีใครให้คำตอบแก่เขาได้เพราะไม่มีใครอยู่ตรงหน้า ถึงจะมีคนอยู่เป็นไปได้ว่าก็ไม่มีใครให้คำตอบได้เช่นกัน แต่เขาก็เลือกที่จะถามออกไป

ฮาจิเมะค่อยๆลุกขึ้นยืน พร้อมกับก้าวขาเรียวยาวออกไปจากซอกตึกให้เร็วที่สุด ในหัวของเขามีคำถามมากมาย ที่คำถามที่ปรากฏเด่นชัดที่สุด ไม่ใช่เรื่องความรู้สึกที่เกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องนั้นต่างหาก เรื่องชายคนนั้น ชายที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเขา...

'แล้วเขาคนนั้นเป็นใครกันนะ?'



21:37 น.
หลังจากที่กลับมาจากเดินเล่นเขาก็กลับมาทำกิจวัตรประจำวันเช่นเดิม คือ ให้อาหารกระต่ายยักษ์ กินข้าว อาบน้ำ อ่านหนังสือและกิจวัตรสุดท้ายที่เขาโปรดปรานมากที่สุดนั่นก็คือการนอนหลับ 

เมื่อถึงเวลานอนฮาจิเมะก็รีบไปนอนบนเตียงทันทีพร้อมกับค่อยๆหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน สลัดความคิดหรือสิ่งที่พบเจอมาในวันนี้ทิ้งออกจากห้วงความคิดให้หมดแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด...
.
.
.
.
.
.
ผีเสื้อสีม่วงกำลังกระพือขยับปีกโบยบินอย่างงดงามในท่ามกลางห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆห้องหนึ่งเช่นเดิม

ไร้ซึ่ง'ทางออก'เช่นเดิม

ไร้ซึ่ง'อิสรภาพ'เช่นเดิม

ไร้ซึ่ง'แสงสว่าง'เช่นเดิม

มีเพียงแสงสว่างจากเทียนเล่มเล็กๆที่รายล้อมรอบห้องเช่นเดิม กลางห้องนั้นมีเตียงนอนโครงเหล็กท่ามกลางความมืดเช่นเดิม

'อ...อ่าห์'
เสียงครางทุ้มต่ำดังเล็ดลอดออกมาจากปากเรียวได้รูปของ'มุทสึกิ ฮาจิเมะ'หรือ'ท่านราชา'ที่กำลังถูกล่ามโซ่ที่คอ แขนและขาทั้งสองข้างเอาไว้บนเตียง ดวงตาทั้งสองถูกปกปิดด้วยผ้าสีทึบทำให้เขามองไม่เห็นบรรยากาศรอบๆ มีแต่ความมืดเท่านั้นที่เขามองเห็น....

'ฮาจิเมะ....ครางให้มากกว่านี้สิ'
เสียงปริศนาที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นมา พร้อมกับออกแรงดึงกระชากโซ่ให้ร่างของฮาจิเมะได้ใกล้ชิดกับบุคคลปริศนานั่นมากขึ้นกว่าเดิมในคราแรก

'อึก!..อ๊ะ!?'

'ดีมากเด็กดี...'

'แต่วันนี้นายทำตัวไม่น่ารักเลยนะ'


'ทั้งที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองในซอกตึกแท้ๆ แต่นายก็พยายามขัดขืนฉันฮาจิเมะ'

'แบบนี้คงต้องลงโทษนายซะแล้วฮาจิเมะ'

'บทลงโทษจากท่านราชาสีดำ มุทสึกิ ฮาจิเมะไงล่ะ...'




-END-


หนูยังสงสัยตัวเองอยูเหมือนกันนะคะว่าหนูแต่งไปได้ไงกันนะ?.....

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562

[Tsukiuta] Sweets ::Kai x Shun


"ไค มาจับดูสิ...จอมมารน้อยในท้องผมกำลังดิ้นอยู่ล่ะ"
ฟุดุกิ ชุนภรรยาของเขามักจะบอกกับเขาเช่นนี้เสมอทุกครั้งที่เจ้าตัวลูบท้องที่ขยับขยายโตมากขึ้นทุกๆวัน บางทีเขาก็นึกสงสัยเหลือเกินว่าท้องมันจะใหญ่โตเกินไปจนอีกคนจะเดินไหวรึเปล่านะ?


"ไหน? จอมมารน้อยที่ว่าจะดิ้นแรงแค่ไหนกันเชียวชุน?"
ฟุดุกิ ไคผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของจอมมารอย่างชุน ได้ก้มหน้าลงไปพร้อมกับเอื้อมมือเข้าไปลูบสัมผัสท้องที่นูนป่องอย่างแผ่วเบาทะนุถนอมกับท้องที่มีอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจลืมตาขึ้นมาดูโลกในอีก4เดือนข้างหน้า

"โห จอมมารน้อยในท้องกำลังดิ้นอยู่จริงๆด้วยนะชุน"

"ใช่ไหมล่ะไค~ ดิ้นขนาดนี้สงสัยจอมมารน้อยอยากออกมาสาปคนเล่นข้างนอกแล้วล่ะมั้ง~"

"ไม่น่าจะใช่แล้วนะชุน"
ชุนหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้ที่เป็นสามีของเขาคนนี้

ชุนจับมือของไคขึ้นมาแล้วเอาแก้มของตนเองซบเข้าไปที่ฝ่ามืออีกฝ่ายแผ่วเบาอย่างออดอ้อน แน่นอนว่าผู้ที่เป็นสามีอย่างไคเองแปลกใจเป็นอย่างมากเพราะปกติเวลาที่ชุนจะมาอ้อนเขาอย่างมากต้องเป็นขอให้อุ้ม

'นี่รึเปล่านะที่เรียกว่าอารมณ์ของคนท้องน่ะ?'
เหมือนชุนจะรู้สิ่งที่ไคคิด จอมมารขาวได้เงยหน้าขึ้นไปหาไคด้วยรอยยิ้ม ไม่วายที่จะไถฝ่ามือไปมาอย่างไม่หยุดหย่อนด้วย

"คงจะเป็นอารมณ์ของคนท้องจริงๆนั่นแหละน้าไค~"

"นายนี่มัน...."

"หึหึหึ~ ยามที่ผมดูจอมมารน้อยทีไร  มันก็ทำให้ผมอดคิดถึงวันนั้นไม่ได้เลยล่ะ~"

"วันนั้น?"

"วันที่ขึ้นร้องเพลงไลฟ์โชว์ครั้งสุดท้ายไงล่ะไค~"

"ออ...."ไคกล่าวไม่วายที่จะเกาแก้มแก้ความเขินอายของตัวเองเล็กน้อย ชุนจ้องมองสามีของตนเองด้วยรอยยิ้มแล้วเปลี่ยนตำแหน่งจากฝ่ามือมากอดหมับเข้าที่แขนทันที

"วันนั้นมันเป็นวันที่วิเศษณ์มากจริงๆนะไค วิเศษณ์มากจนผมไม่อยากลืมมันเลยล่ะ~"





หากให้นับย้อนกลับไปก่อนที่ชุนจะตั้งครรภ์นั้นคงจะเป็นช่วงที่ขึ้นร้องเพลงไลฟ์โชว์ครั้งสุดท้ายของเหล่าสมาชิกวงซิกส์  กราวิตี้และวงโพรเซลล่ารัมก่อนที่จะประกาศยุบวง ซึ่งในคืนนั้นฟุดุกิ ไคจำได้เป็นอย่างดีว่าหลังจากที่ทั้งสองวงได้ทำการประกาศออกสื่อว่าจะทำการยุบวงหลังจากที่ร้องเพลงไลฟ์โชว์เสร็จ

จู่ๆไคก็คุกเข่าลงต่อหน้าชุนท่ามกลางความตกใจของเหล่าแฟนๆและสมาชิกทุกคนในวงซิกส์ กราวิตี้และวงโพรเซลล่ารัม แน่นอนว่าจอมมารสีขาวอย่างชิโมทสึกิ ชุนเองก็ดูตกใจไม่น้อยกับการกระทำของรองลีดเดอร์ของวงตนเอง

'ทำอะไรน่ะไค ผมไม่เข้าใจ?' ชุนเสแสร้งเอ่ยถามรองลีดเดอร์ไปด้วยความสงสัยถึงแม้ความจริงเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังจะทำอะไรอยู่ก็ตาม

'อ่า....ฉันจะทำอะไรช่างมันเถอะน่าชุน'
ไม่นานนักไคก็ยื่นกล่องกำมะหยี่ขนาดเล็กที่ซ่อนเอาไว้ออกมา พร้อมกับเปิดฝากล่องก่อนที่จะพบว่าข้างในกล่องนั้นมีแหวนแต่งงานที่ดูเรียบง่ายแต่กลับดูงดงามอยู่ในกล่องกำมะหยี่นั่นหนึ่งวง

'ค...ไค'

'ชุน...ถึงฉันจะไม่ถนัดเรื่องอะไรแบบนี้ก็เถอะ....'เขาเกาแก้มตัวเองแก้เขินเล็กน้อยก่อนที่จะผ่อนลมหายใจแล้วพูดประโยคถัดไป

'ชุนแต่งงานกับฉันนะ'

เสียงกรี๊ดปนกับเสียงเชียร์จากเหล่าแฟนๆต่างพากันให้ชุนได้ตอบตกลง แน่นอนว่าเขาตอบตกลงที่จะแต่งงานกับอีกฝ่าย ในวินาทีนั้นมีเสียงมากมายจากทุกคนทั้งมีเสียงกรี๊ดกร๊าด เสียงร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองที่ยืนอยู่บนกลางเวที ทั้งไคและชุนต่างไม่ได้แสดงอาการเขินอายออกมาแต่อย่างใด ทั้งสองได้แต่กำมือเอาแน่นจนกระทั่งลงจากเวทีไป...






"นึกถึงทีไรก็วิเศษณ์จริงๆล่ะน้า~"ชุนพูดออกมาและเอาหัวถูไถเข้าที่แขนไคอย่างอารมณ์ดี

"นายนี่นะชุน"ไคก้มมองชุนก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่มันก็จริงอย่างที่ชุนพูดนั่นแหละ คิดถึงทีไรก็รู้สึกวิเศษณ์ทุกครั้งจริงๆนั่นแหละ

"นี่...ไค...."

"มีอะไรงั้นหรอชุน...?

"ผมอยากกินของไคอ่ะ ได้ไหม?"

"ชุนนี่นาย..."
ไคได้แต่ตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เมื่อภรรยาของเขามาขอเขาโต้ๆเช่นนี้ ใจจริงก็ยังไม่อยากจะให้เท่าไหร่ แต่ถึงไม่ให้ชุนก็จะใช้วิธีอื่นอยู่ดี

"ได้สิ แต่ห้ามกลืนลงไปนะ"

"อื้อ~"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"ช ชุน...."

"ถ้าไม่ไหวก็ห้ามฝืนนะ อ่าห์..."เสียงกดครางต่ำทุ้มของไคดังขึ้นมาเป็นระยะ เสียงทุ้มนั่นมันคอยกระตุ้นอารมณ์มักมากในกามของท่านจอมมารที่มักจะถูกปกปิดเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยมจนหลายๆคนคิดว่าชุนนั้นไม่ใช่คนมักมากในกาม...

"อือ..." ชุนทำได้เพียงพยักหน้ารับรู้เท่านั้น(ถึงจะลำบากแค่ไหนชุนก็ไม่เคยยอมหยุดมันอยู่ดี) ก่อนที่จะเริ่มใช้ลิ้นร้อนปรนเปรอแก่นกายร้อนตรงหน้าอย่างโหยหา

'ก็แน่ล่ะสิ ตั้งแต่ที่รู้ว่าท้องก็ไม่ได้กินขนมของไคเลยนี่นา~'

'จะไม่ให้จอมมารอย่างเขาอดคิดถึงไม่ได้รึไงกัน จริงมั๊ย?'

'รสชาติขนมของไคน่ะ~'

ยิ่งเขาใช้ลิ้นร้อนไล้เลียจากโคนแล้วค่อยๆขึ้นไปยังส่วนปลายก่อนที่จะดูดเม้มตบท้ายๆเบาๆ ดูเหมือนกายแกร่งของไคยิ่งตั้งตระหง่านขึ้นเรื่อยๆ?

'นี่เขาคิดไปเองรึเปล่านะ? ฟุฟุ~'

"ดูเหมือนจะไม่ไหวแล้วสินะไค~" ชุนเอ่ยถามไคออกไปด้วยรอยยิ้ม

"มามะ เดี๋ยวจอมมารกินขนมแล้วน้า~"

"รีบๆกินไปเถอะน่าชุน..." ไคบ่นเสียงดุเข้ม แต่เขาไม่กลัวหรอก เพราะชุนรู้ดีที่สุดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้~

"อือ!~"
ว่าแล้วจอมมารสีขาวก็ได้จัดการกลืนกินกายแกร่งที่ตั้งตระหง่านเข้าไปอย่างเชื่องช้า ใช้ลิ้นร้อนปรนเปรอให้กายแกร่งได้ปลดปล่อยออกมาเสียที

"ชุน ชุน"
กายแกร่งของไคกระตุกเล็กน้อยแล้วไม่นานนักน้ำรักแสนหอมหวานจำนวนมหาศาลก็ถูกปลดปล่อยออกมา

"อุ๊บ! แค่กๆๆ"เนื่องจากน้ำกามที่มีมากเกินไป ทำให้ชุนนั้นเกิดสำลักขึ้นมา

ไคที่เห็นจึงรีบหยิบทิชชู่มาเป็นที่รองรับให้อีกฝ่ายคายมัน ชุนรีบคายน้ำกามออกมา เมื่อเช็ดอะไรเสร็จหมดเรียบร้อยร่างสูงก็จัดการไปทิ้งทิชชู่ทันที

"ไม่ได้ทำนานสินะ ขนมหวานถึงได้เพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อน~"ชุนพึมพำกับตัวเองอย่างอารมณ์ดี ไม่นานนักไคก็กลับมา

แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากพูดอะไรออกไปจู่ๆไคก็พุ่งเข้ามาตะครุบกันชุนเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายหนีไปไหนได้

"เห~อะไรกันน่ะไค~?"ชุนถามออกไปด้วยดวงตาที่ใสซื่อแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็ตาม

"นายน่าจะรู้ดีที่สุดนะชุน ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นน่ะชุน"

"สงสัยวันนี้นายคงได้โดนมากกว่ากินขนมแน่ๆที่รัก~"ไคกล่าวจบก็เริ่มทำมากกว่าการให้จอมมารอย่างชุนกินขนมทันที

'อดกลั้นไม่ได้สินะไค~'

'ไม่สิ!'

'เวลาผมกินขนมน่ะ!'

'ไคเคยอดกลั้นได้ที่ไหนล่ะ~'

'ฟุฟุ~'


-จบ-














ฉากเรทคืออัลไลหนูแต่งไม่เป็น-----



วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

[IDOLiSH7]: I Love You :: Gaku x Ryu

•IDOLiSH7
•Yaoi
•Gaku x Ryu
•Drama

 เมื่อนานมาแล้วครั้นในอดีตโบราณมนุษย์กับปีศาจเคยอาศัยปกครองอยู่บนโลกมนุษย์ร่วมกันมานานนับ1,000ปี 

หลังจากนั้นไม่นานก็มีกลุ่มชนกลุ่มหนึ่งกุสร้างเรื่องขึ้นใส่ร้ายฝังปีศาจเพื่อหวังผลประโยชน์ของตน เพราะเรื่องราวที่แต่งขึ้นของกลุ่มชนนี้ ทำให้มนุษย์มีความเชื่อเกี่ยวกับภูติ ผี ปีศาจในทางที่ผิด มนุษย์ทุกคนเชื่อว่าภูต ผี ปิศาจเหล่านี้เป็นสิ่งที่อันตราย น่ากลัวและโหดร้ายมากที่สุด มนุษย์เหล่านี้จึงสรรหาวิธีการต่างๆขึ้นมาเพื่อขับไล่และกำจัดภูตผีเหล่านี้ให้หมดสิ้นไป ด้วยสาเหตุนี้เองทำให้เหล่าภูตผี ปีศาจเหล่านี้ต้องคอยหลบซ่อนบนโลกตลอดเรื่อยมา...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"เฮ้กาคุ! แกจะปไหนน่ะ?!!!"
เสียงผู้เป็นพ่อได้ตวาดดังขึ้น เมื่อเขาได้พบเห็นลูกชายของตนเองกำลังหยิบขนมปังเนย2ก้อนที่เป็นอาหารเช้าของตนใส่ในตะกร้าไม้ของตน
"ข้านำอาหารเช้าพวกนี้ ไปทานข้างนอกน่ะสิ ข้าทานกับท่านพ่อจนเบื่อแล้ว"
"ออกไปทานข้างนอกแบบนี้ เดี๋ยวก็โดนพวกปีศาจทำร้ายหรอก"
"ขอรับๆ ทราบแล้วขอรับ ตอนเย็นๆเดี๋ยวข้าจะกลับมา ไปล่ะท่านพ่อ"
"เดี๋ยวสิกาคุ!"
หยิบจัดของใส่ในตะกร้าเรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งออกมาโดยไม่สนใจคำดุว่าของผู้เป็นพ่อ

ยาโอโตเมะ กาคุเด็กหนุ่มวัย14ปีได้สาวเท้าก้าวยาวๆวิ่งหอบถือใบตะกร้าไปตามทางถนนอย่างรวดเร็ว เขาได้วิ่งตรงไปยังโบสถ์ร้างแห่งหนึ่งที่ห่างจากตัวในเมืองเพียงแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้นเอง
"ม..มาแล้ว"
กาคุผลักบานประตูโบสถ์เดินเข้าไปแล้วปิดประตูโบสถ์ลงอย่างแผ่วเบา กวาดสายตามองดูรอบๆภายในโบสถ์แห่งนี้ 
"อยู่ไหนนะริว"
พึมพำกับตนเองได้ไม่นาน นัยน์ตาสีเทาก็ไปสะดุดกับปีศาจตนหนึ่งที่กำลังนอนขดตัวกลมเหมือนก้อนอะไรซักอย่างอยู่บนผ้าห่มเน่าๆกองหนึ่ง เมื่อเห็นดังนั้นกาคุจึงเดินเข้าไปปลุกอีกฝ่ายเบาๆเพื่อให้ตื่นขึ้นมารับประทานอาหารเช้า
"นี่ริว...ตื่นได้แล้วน่า..."
"อือ...อ๊ะ!...กาคุเองหรอกหรอ.."
ปิศาจหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนที่จะนั่งลงเช่นเดิม
"วันนี้ทำไมมาเร็วจัง?"ริวเอียงคอถามกาคุอย่างสงสัย เพราะว่าทุกทเขาจะมาช้ากว่านี้ประมาณ1ชั่วโมงได้นี่
"ก็วันนี้ท่านพ่อจะไปทำธุระต่างเมือง เลยทานอาหารเช้ากว่าผิดปกติน่ะ...นี่ขนมปังของเจ้า"กาคุยื่นขนมปังเนย1ก้อนไปให้ริวที่กำลังจ้องมองเขาอยู่
"ขอบคุณนะ~"ริวรับขนมปังเนยมาพร้อมกับมอบรอยยิ้มให้กาคุดังเช่นทุกที

ย้อนไปเมื่อประมาณ3เดือนก่อน
ระหว่างที่กาคุกำลังจะเดินทางกลับบ้านตนเอง ในระหว่างทางเขาได้เจอกับริวที่นอนไม่ได้สติบนพื้นหญ้า ตามร่างกายเต็มไปด้วยบากปผลมากมาย กาคุเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือริว โดยที่พาริวไปยังสถานที่ปลอดภัยเพราะดูจากรูปร่างแล้วอีกคนจะต้องปิศาจแน่นอน จึงเลือกโบสถ์ร้างเป็นสถานที่พักพิงอาศัยให้อีกคนฟื้นตัว

'เฮ้! นายเป็นอะไรรึเปล่า!?'ร่างบางพยายามปลุกเขย่าปีศาจตรงหน้าให้ตื่นขึ้นมา


ปีศาจหนุ่มไหวตัวเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ดวงตาสีทองอร่ามเบิกกว้างสะดุ้งลุกขึ้นแล้วถอยหนีห่างจากคนตรงหน้าทันที

'น..นายเป็นใคร!! แล้วพาฉันมาที่นี่ทำไม!?'

'ฉันเห็นนายนอนไม่ได้สติ แล้วก็มีแผลตามบนตัวนายเลยกะว่าจะทำแผลให้ซะหน่อย'ไม่ว่าเปล่าเขาเหลือบมองไปเห็นกล่องยาอยู่ใกล้ๆจึงเดินเข้าไปหยิบกล่องยามาทำแผลให้กับอีกคน


'ฉ ฉันไม่เชื่อนายหรอก! นายจะฆ่าฉันใช่ไหม!!'

ไม่ว่าเปล่าปีศาจหนุ่มได้กอดแขนตนเองเอาไว้เพื่อป้องกันตัว สายตาสีทองมองเขาอย่างเกรี้ยวกราดเพื่อไม่ให้เขามาใกล้

'ฉันไม่ฆ่านายหรอกน่า...'เขานั้นไม่สนใจว่าปีศาจตนนั้นจะมองยังไงก็ช่าง กาคุเดินตรงเข้าไปทำแผลให้อย่างไม่ลังเล ตอนแรกปีศาจตนนั้นก็มีท่าทีขัดขืนเล็กน้อย ไม่นานเขาก็เริ่มอยู่นิ่งๆให้อีกฝ่ายทำแผลให้จนเสร็จหมดเรียบร้อย


'เอาล่ะ เสร็จเรียบร้อย ไม่เจ็บตรงไหนแล้วใช่มั๊ย?'กาคุทอดสายตามองผ้าพันแผลสีสะอาดพันรอบๆบริเวณขาและแขนของปีศาจนั่นอย่างภาคภูมิใจกับผลงานของตนเอง


'อือ ไม่เจ็บแล้ว..ขอบคุณนะ' ปีศาจหนุ่มได้เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยต่างจากตอนแรกที่เขาแทบจะไม่ได้ยิ้มให้กาคุเลย กาคุได้มองรอยยิ้มนั้นอย่างตกตะลึง หัวใจเต้นอย่างหนักหน่วง คนอย่างกาคุมีผู้คนรอบกายที่คอยมอบรอยยิ้มให้กับเขามากมายแต่..กาคุไม่ได้มีอาการเป็นเช่นนี้แบบที่ริวยิ้มให้เขา ทำไมนะ ทำไมหัวใจของเขาต้องเต้นรุนแรงเพราะเพียงแค่รอยยิ้มปีศาจนั่นด้วย?


'อ่า...ไม่เป็นไร'กาคุรีบบอกปัดแล้วหันหน้าหนีไปอีกทางเพื่อหลบรอยยิ้มนั่น

'ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ? ฉันยาโอโตเมะ กาคุ'

'ริว...ริวโนะสุเกะเรียกว่าริวก็ได้' ริวพูดมันออกมาอย่างเขินอาย ปกติไม่เคยมีผู้ดถามชื่อริวเลยนี่นา


'อ่า ริวสินะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนายต้องพักฟื้นที่นี่ ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดเข้าใจมั๊ย?'ริวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ร่างหนาร้อนรนถามออกไปทันที


'ท..ทำไมล่ะ?'


'ก็นายต้องพักฟื้นเพราะแผลยังไม่หายไงริว ถามแปลกเสียจริงๆ'ริวนัางนิ่งไปอยู่นานก่อนที่จะทำสีหน้าประมาณว่า'จริงด้วยลืมไปสนิทเลย'ออกมา กาคุมองเช่นนั้นก็ได้ทำเพียงแค่ถอนหายใจแผ่วออกมา ทั้งที่เป็นปีศาจแท้ๆกลับดูไร้พิษภัยเสียจริงๆ


'ปีศาจอะไรน่ารักชะมัดเลย...'
.
.
.
.
.
.
"กาคุ กาคุ!!!"
"ห ห๊ะ! มีอะไรงั้นหรอริว?"กาคุสะดุ้งตกใจที่อีกคนจ้องหน้าเข้าใกล้เขามากเกินไป
"เรียกตั้งนานแล้วกาคุไม่หันมาซะที เป็นอะไรรึเปล่า?"ปีศาจหนุ่มเอียงคอถามอย่างสงสัย อดเป็นห่วงอีกฝ่ายไม่ได้
"ป..เปล่าไม่ได้เป็นอะไรหรอก"บอกปัดๆพลางหันหน้าไปอีกทางเพื่อหลบใบหน้าที่ขึ้นสีจางๆของตนเองเอาไว้
"งั้นหรอ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ"ปีศาจหนุ่มเผยรูปรอยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของสึนาชิ ริวโนะสุเกะยังคงจะทำให้ใจก็กาคุหวั่นไหวได้เช่นเดิม

'ให้ตายสิน่า...'

การกระทำเช่นนี้ของกาคุและริวยังคงหมุนเวียนเป็นเช่นนี้ตลอดจนกระทั้งร่างกายของริวฟื้นฟูได้ดีขึ้นเสร็จหมดเรียบร้อย แต่ริวเองก็ไม่อยากไปจากที่นี้เสียด้วยโดยให้เหตุผลง่ายๆว่าเขาชอบที่นี่อยากจะอยู่ต่ออีก ซึ่งกาคุเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาเองก็ยินดีที่จะให้ริวอยู่ที่นี่ต่อไปด้วย กาคุกับริวมีความสุขมากๆเมื่อพวกเขาทั้งสองอยู่ในโบสถ์ร้างด้วยกันจนกระทั้ง...
.
.
.
ณ ตอนกลางคืน

"เห้ กาคุแกได้ยินข่าวเรื่องโบสถ์ร้างใกล้ๆป่าxมั๊ย?" เสียงของผู้เป็นบิดาได้เอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เขาจิ้มเนื้อวัวชั้นดีเยี่ยมที่ถูกทาด้วยเครื่องเทศที่หลากหลายแล้วนำย่างบนเตาไฟด้วยอุณหภูมิที่พอเหมาะ
"โบถส์นั้นทำไมหรือ?" กาคุพูดพร้อมกับเขี่ยผักกาดขาวออกไปวางไว้อีกทางหนึ่งของขอบจาน
"ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่ามีปีศาจอยู่ตนหนึ่งอาศัยอยู่ด้วย เลยรวมตัวกันจะเผาโบสถ์แห่งนั้น" ผู้เป็นบิดาเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉยในขณะที่กาคุผู้เป็นลูกชายหัวใจนั้นกระตุกเริ่มร้องเตือนว่ามีบางอย่างที่ไม่ดีจะเกิดขึ้นกับริว
"จ จริงหรอท่านพ่อ?" กาคุพยายามถามพ่อให้เป็นปกติมากที่สุด
"แกคิดว่าฉันเคยโกหกแกรึไงกาคุ?"ทันทีที่พูดจบกาคุก็รีบลุกขึ้นพรวดพราดจนพ่อตกใจ แต่ที่ยังมิได้เอ่ยถามอะไรลูกชาย กาคุก็ก้าวเท้าแล้วรีบวิ่งออกไปยังโบถส์ร้างนั่นทันที
"เฮ้ย! กาคุนั่นแกจะไปไหน กาคุ กาคุ!!" เสียงตะโกนดังขึ้นมาเป็นคำถาม แต่กาคุไม่สนมัน เพราะตอนนี้ในหัวของเขาคิดถึงแต่เรื่องของริว 

'เพียงแค่ขอให้ปีศาจตนนี้ปลอดภัย เขาก็ดีใจมากพอแล้ว...'

แต่เหมือนคำขอของกาคุจะไม่สมหวัง เมื่อมาถึงโบสถ์นั่น เปลวเพลิงก็กำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งไม่มีวี่แววว่าจะดับมอดหรือลดน้อยลงไปเสียเลย นัยน์ตาสีเทาจ้องมองเข้าไปในกองเปลวเพลิงนั่นแล้วพบกับใครซักคนที่กำลังกุมหัวกอดนั่งกอดเข่าด้วยความหวาดกลัว 

'นั่น! ต้องเป็นริวแน่ๆ!!'

กาคุวิ่งไปทางหลังโบถส์ที่ไม่ค่อยจะมีคนอยู่ เปลวไฟที่ยังลุกลามมาไม่ถึงส่วนหลังของโบถส์ มันเลยทำให้กาคุสามารถพังประตูไม้เก่าๆของโบถส์เข้าไปได้อย่างง่ายดายโดยมิต้องระวังเรื่องที่ไฟจากไหม้ตัวเขาก่อนที่จะไปช่วยริวแน่ๆ
"ริว ริวนายอยู่ไหน!!!"
กาคุส่งเสียงตะโกนเรียกหาริวอย่างร้อนรน พลางมองซ้ายและมองขวาหวังว่าจะเจอกับอีกคนที่เขาเรียกหา
"ก..กาคุหรอ ฉันอยู่นี่!!"เสียงสั่นๆที่ถูกล้อมรอบด้วยกองเพลิงตะโกนตอบกลับไปหาให้คนที่มาได้รับรู้ เมื่อกาคุได้ยินเสียงนั่นเขาก็รีบพุ่งตัวไปหาริวด้วยความกล้าไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆตรงหน้า
"ริว!ไม่เป็นไรใช่มั๊ย ดีใจจังที่นายปลอดภัย" ร่างบางสวมกอดเข้ากับปีศาจหนุ่มอย่างแน่นหนาราวจะไม่ให้อีกฝ่ายหายไปจากตรงหน้าตน
"อือ..ไม่เป็นไร"พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาก่อนที่ปีศาจหนุ่มจะนึกบางอย่างอะไรขึ้นมาได้แล้วรีบผละออกจากกาคุทันที
"ว่าแต่นายมาที่นี่ทำไมกาคุ!!"
"เดี๋ยวก็ตายไปด้วยกันหรอก!
"รีบหนีออกไปกาคุ!!"
"ไม่ ฉันจะไม่หนีไปไหนทั้งนั้น"
กาคุปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับกำชับกอดนั้นให้แน่นขึ้นกว่าเดิมจนริวตกใจและหันไปมองใบหน้ากาคุด้วยความสงสัยไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามอะไร กาคุก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
"ฉันไม่อยากทิ้งนายไปไหนเลยริว นายเป็นคนเดียวที่มีรอยยิ้มที่ทำให้ฉันหวั่นไหว นายเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆกับนาย หัวใจของฉันปั่นป่วนไปหมดเลย..."
ท่ามกลางกองเพลิงกับคำสารภาพมากมายที่ออกมาจากปากของกาคุ คำสารภาพเหล่านั้นมันทำให้ริวเบิกตากว้างด้วยความตกใจผสมปนเปกับใบหน้าที่แดงก่ำของปีศาจหนุ่ม
"กาคุ.."
"ริว..ฉันรักนายนะ"
ทั้งสองต่างสบตากันอย่างเนิ่นนาน หัวใจดวงน้อยๆของทั้งสองเต้นสั่นระรัวอย่างรุนแรง กาคุยื่นใบหน้าของตนของไปหาริว ประกบริมฝีปากทั้งสองให้ได้ประสานสัมผัสกันอย่างอ่อนโยน จูบนี้มันจะเป็นจูบที่อ่อนโยนและเนิ่นนานถ้าหากแผ่นท่อไม้ใหญ่บนเพดานที่กำลังติดเพลิงนั้นหล่นลงมาทับพวกเขาทั้งสองไปซะก่อน....

"ความรัก..
เกิดขึ้นได้....กับทุกคน
แต่...จะมีอยู่ไม่กี่คน
ที่ความรักนั้น
จบลงอย่างสวยงาม"

-END-


---------------------------------------------
แต่งสดอีกแล้ว เมากาวอีกแล้ว ชื่อตอนไม่เกี่ยวกับเนื้อหาอีกแล้วค่า555+ อะไรไม่รู้ดลบันดาลให้เรามาแต่งแบบนี้ อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ก็ขออภัยด้วยคะ ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ> <

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561

【IDOLiSH7】ระหว่างทาง : Tenn x Ryu

●IDOLiSH7
●Yaoi
●Tenn x Ryu
●One Shot
●R-18+




"ขอบคุณสึนาชิซัง คุโจซังและยาโอโตเมะซังมากๆนะครับ ที่ให้ความร่วมมือกับพวกเรา"
แว่วเสียงผู้ควบคุมและเสียงปรบมือคนอื่นๆในห้องส่งดังหลังจากที่เหล่าทริกเกอร์ได้ทำการอัดเสียงร้องเพลงเป็นที่สิ้นสุดเรียบร้อย

"ไม่เป็นไรครับ ถ้าพวกผมไม่ได้พวกมิคาโอะซังช่วยด้วย ก็คงทำได้ไม่ดีแบบนี้เหมือนกันครับ"
เท็นกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่ดูกี่ทีก็แทบจะทำให้ใจสาวๆนั้นเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรงเสียจนแทบจะระเบิดออกมาเพราะรอยยิ้มของเท็น ไอดอลผู้ที่ได้รับฉายาว่า'เท็นชิ'

"ใช่แล้ว ตามที่เท็นพูดเลยครับมิคาโอะซัง"
ริวพูดเสริมขึ้นนิดๆ มือหนาจับหูฟังแล้วค่อยๆวางเอาไว้ที่เดิมอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

"โอ๊ะ! พอสึนาชิซังกับคุโจซังพูดแบบนี้ พวกผมก็เขินนะเนี้ย"
มิคาโอะเกาแก้มแกล้งแสดงท่าทีเขินอายออกไปตามน้ำของริวกับเท็น


"เฮ้! จะคุยกันอีกนานมั๊ย อย่าลืมสิว่าวันนี้พวกเราต้องรีบกลับนะ!!"
กาคุตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุดันจนคนที่อยู่ใกล้ๆกาคุต่างก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย 

"จริงด้วย วันนี้ต้องรีบกลับสินะ ผม เท็นกับกาคุต้องกลับแล้ว ขอโทษจริงๆด้วยนะครับมิคาโอะซังที่ไม่ได้อยู่คุยกันต่อ"
ริวพูดพร้อมก้มน้อยเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอโทษอีกฝ่าย เท็นเองก็ก้มหัวตามมารยาทให้มิคาโอะเช่นกัน

"อ ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงจะเสียดายที่ไม่ได้คุยกับพวกคุณต่อ แต่ก็เอาไว้โอกาสหน้านะ"
มิคาโอะก้มโค้งรับเล็กน้อยแล้วโบกมือให้เป็นการบอกลาทั้งสาม 

หลังจากอำลากันเสร็จเรียบร้อย กาคุก็เดินนำริวกับเท็นไปยังรถสีดำคันหรูราคาหลัก7ของเขา พร้อมกับเปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะคนขับ เมื่อริวเดินเข้าไปกำลังจะไปนั่งเบาะข้างคนขับ จู่ๆริวก็ถูกเท็นลากดันให้ไปนั่งเบาะหลังด้วยกันกับเท็นแทน ริวแปลกใจเล็กน้อยที่ปกติแล้วริวจะไปนั่งที่เบาะคนขับหรือไม่ก็ข้างเบาะคนขับ เพราะเท็นจะยึดที่เบาะหลังเอาไว้เป็นซะส่วนใหญ่ แต่วันนี้กลับแปลกที่จู่ๆเท็นก็ลากดันเขามานั่งด้วย ถึงจะแปลกใจแต่ริวก็ไม่คิดอะไรมาก ยอมไปนั่งเบาะหลังเป็นเพื่อนเท็นข้างๆ

"วันนี้แปลกใจจังเลยนะที่เท็นลากฉันมานั่งที่เบาะหลังด้วย มีอะไรรึเปล่า?"

"เปล่าไม่มีอะไรหรอก"
เท็นตอบเสียงเรียบๆพร้อมกับหันหน้าไปมองดูบางอย่างนอกกระจก ถึงริวจะสงสัยแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดจะถามเท็นหรอก อาจจะเป็นเพราะรู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะเป็นเช่นใดเลยไม่ถามดีที่สุด...

ผ่านไปหลายนาทีแล้วที่รถเคลื่อนตัวบนเส้นท้องถนนที่เงียบสงัด ทั้งที่เป็นเวลาประมาณ3ทุ่มกว่าๆแท้ๆ แต่กลับไม่เห็นจะมีรถวิ่งผ่านซักคันเดียว

'วันนี้เงียบจริงๆสินะ~'
ริวสรุปเองในใจเงียบๆคนเดียว แต่ในขณะเดียวกันเท็นก็เอนตัวเข้ามานอนบนตักของริวอย่างดื้อๆ ริวก้มมองกับร่างเล็กที่นอนบนตักเขาพร้อมกับลูบหัวไปมาด้วยความเคยชิน ร่างเล็กเงยหน้ามองอย่างช้าๆเข้าไปสบตากับร่างหนาด้วยแววตาที่จะไม่ค่อยสามารถเดาได้

"นี่ริวผมขอได้มั๊ย?"

"ขออะไรงั้นหร...หว๋าเดี๋ยวสิเท็น!!!"
ไม่รอให้ริวได้เอ่ยถามกับคนตรงหน้า เท็นก็จัดการรูดซิปกางเกงริวลงพร้อมกับถกชั้นในริวให้ลงมาเผยให้เห็นแก่นกายของริวที่ยังคงนอนสงบนิ่งอยู่ 

"..."
เท็นมองแก่นกายนั่นแล้วก้มลงไปเลียตรงโคนข้างล่างเบาๆแล้วลากลิ้นขึ้นไปจนสุดปลายทำเช่นนี้ซ้ำไปมาเพื่อต้องการปลุกปั้นอารมณ์ของคนตรงหน้า

"อ๊ะ! เท็นไม่เอาอย่าทำแบบนั้นสิ!"
ริวใบหน้าขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด แก่นกายตั้งชูชันขึ้นมา ส่วนปลายมีน้ำไหลปริ่มออกมาเล็กน้อย เท็นมองน้ำกามนั้นแล้วใช้นิ้วชี้ด้านขวาของเขากดลงไปบนแก่นกายที่มีน้ำไหลปริ่มออกมา

"อื้อ!! อ๊า!!"
ริวครางเสียงดังลั่นในรถพร้อมกับปลดปล่อยน้ำกามออกมาเลอะที่ใบหน้าของเท็นและบางส่วนก็กระเด็นออกไปเลอะบนเบาะรถ

"ริวน่ารักมากเลยนะรู้ตัวมั๊ย"เท็นกล่าวพร้อมแลบลิ้นน้ำกามที่เลอะบนหน้าบางส่วนให้ริวดู ร่างสูงหันหน้าไปทางอื่นด้วยความเขินอายแบบสุดๆ

"เฮ้! ถ้าจะทำก็อย่ามาทำต่อหน้าฉันสิ"เสียงของกาคุได้ดังขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน เพราะเขาเองทนไม่ไหวเหมือนกันหากเห็นทั้งสองคนนี้ทำรักกันต่อหน้าเขาแบบนี้

"ทีเมื่อวานกาคุยังทำแบบนี้ต่อหน้าผมเลย ทำไมผมจะทำต่อหน้ากาคุไม่ได้?"
ร่างเล็กพูดแย้งขึ้นมาด้วยท่าทีที่กวนประสาทเช่นเดิม พร้อมกับสอดนิ้วทั้งสองนิ้วเข้าไปที่ช่องแคบริวทันทีโดยที่ริวไม่ทันได้ตั้งตัว

"อ๊าา!!!!"
ร่างสูงเชิดหน้าครางดังลั่น ปลดปล่อยน้ำกามออกมาอีกครั้ง ช่องทางนุ่มสีแดงก่ำตอดรัดกับนิ้วที่สอดเข้าไปอย่างกระหาย

"เอ๊ะ? ช่องทางยังนุ่มอยู่เลยหนิ สงสัยเมื่อวานทำกันหนักสินะ"เท็นกล่าวเล็กๆพร้อมกับดึงนิ้วออก

"ถ้างั้นไม่มีความจำเป็นต้องสอดนิ้วเข้าไปเลยนี่"ร่างเล็กจัดการถอดกางเกงตนเองออกมาพร้อมกับชั้นในออก เผยให้เห็นแก่นกายน้อยๆของอีกฝ่ายตั้งชูชัน เส้นเลือดปูดที่พร้อมจะปลดปล่อยออกมาตลอดเวลา

"เข้าไปเลยนะริว"เท็นจับขาของริวแยกออก สอดแก่นกายเล็กเข้าไปช่องทางนุ่มสีแดงก่ำนั่นแล้วขยับสะโพกเข้า-ออกอย่างรุนแไร้ความอ่อนโยน

"อ๊ะ! ร..รุนแรงเกินไปแล้วนะ อ๊า!!"
เสียงริวยังคงครางลั่นออกมาอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันจะทำให้กาคุสมาธิสติแตกกระแจง กาคุพยายามควบคุมตนเองแม้แก่นกายของเขามันจะตั้งตรงมีน้ำปริ่มไหลซึมผ่านกางเกงเป็นเพราะเสียงร้องครางของริวก็ตาม

"อ๊า! เท็น ม ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ!!"

"ฟู่ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว"พึมพำออกมาเสียงแผ่วพร้อมจับยึดสะโพกริวเอาไว้ แล้วขยับส่ายเข้าไปเร็วขึ้นเรื่อยๆ

'สวบ สวบ สวบ'

"บ้าเอ๊ย! ไม่ไหวแล้วโว๊ย!"ร่างบางขาวซีดหักพวงมาลัยเข้าไปจอดที่ข้างทาง เมื่อรถจอดสนิท กาคุรีบรูดซิปกางเกงกกชั้นในลงแล้วจับแก่นกายรูดขึ้น-ลงเพื่อจะปลดปล่อยทันที

"หึ ทนไม่ไหวสินะกาคุ~"

"หุบปากไปเลยเท็น!!!"

"อ อย่าทะเลาะกันสอ อ๊ะ!!"

'สวบ สวบ สวบ'
เสียงทั้ง4ดังขึ้นบรรเลงออกมาปะปนกันมั่วไปหมดจนริวนั้นต้องรีบปิดหูตนเองเพราะไม่อยากฟังเสียงที่หน้าอายเช่นนี้

"เอาล่ะริว ผมจะไปแล้วนะ"
เท็นขยับกายเร็วขึ้นจนตัวริวสั่นครอไปตามแรงจากเท็น ในขณะที่กาคุเองก็เริ่มขยับชักแก่นกายตนเองเร็วขึ้นเช่นกัน

"ด เดี็๋ยวเท็น บ แบบนี้มันจะ..อ๊าาาาา"
แก่นกายริวปลดปล่อยน้ำกามให้ไหลพุ่งออกมาจนเลอะใบหน้าของตนเอง 

"อึก!/ฮึม!"
ร่างบางดันเข้าไปจนมิดแล้วปล่อยน้ำกามเข้าไปในตัวริว ในขณะที่กาคุเองก็ปล่อยน้ำกามออกมาจนเลอะมือตนเอง

"เสร็จแล้วใช่มั๊ย? ฉันจะได้ขับรถไปต่อ"
ร่างบางขาวซีดจัดการหยิบทิชชู่ออกมาแล้วทำความสะอาดน้ำกามที่เลอะบนมือและแก่นกายตนบางส่วนแล้วขับรถเดินทางต่อ

"อืม เสร็จแล้ว.."
เท็นค่อยๆถอดแก่นกายตนออกมาจากช่องแคบนั่นอย่างช้าๆ จัดการเช็ดทำความสะอาดแล้วจัดการใส่กางเกงให้ริวเหมือนเดิม

"ริวไหวหรือเปล่า..อ อ้าว?"
หากสังเกตดูดีๆแล้ว ริวนั้นหลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบ เท็นจึงจับริวให้นอนหนุกบนตักเขาในท่าที่สบายๆแล้วลูบแก้มอีกฝ่ายไปเบาๆ

"สงสัยจะเหนื่อยสินะ ขอโทษนะริว"
เท็นพึมพำออกมาเสียงแผ่วเบาไม่ให้คนอื่นได้ยินนอกจากตัวเขาเอง ร่างเล็กก้มหน้าลงไปพร้อมกระซิบบอกใส่หูอีกฝ่าย แม้จะไม่ได้ยินก็ตาม..

'กลับไปเดี๋ยวผมจะจัดต่อถึงเช้ายาวๆนะริว'



~End~

---------------------------------------------
เพิ่งลองแต่งแนว18+เป็นครั้งแรก อาจจะมีอะไรหลายๆอย่างที่พลาดมาก ที่แต่งคู่นี้เพราะเป็นอีกเรือที่เราชิปค่ะ แต่แน่นนอนว่าเรือหลักยังคงเป็นกาคุริวอยู่น้า~
ปล.แน่นอนค่ะ แต่งสดเช่นเดิมไม่ตรวจทานด้วย----

วันศุกร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2561

『AU Rune Factory Tide of destiny』 Shawl : Tomoka x Masaru

●AU Rune Factory Tide of destiny
 Tomoka x Masaru
One Shot
R-PG

"หนาว...."
เสียงเล็กๆดังขึ้นในโรงตีเหล็กหลังเล็กเก่าๆแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมานัก ภายในนั้นมีหญิงสาวกำลังนั่งอยู่หน้าเตาไฟ ผมของเธอนั้นเป็นสีแดงถูกตัดซอยจนสั้น จนทำให้ใบหน้าของเธอมีใบหน้าที่หล่อเหลามีเสน่ห์คล้ายคลึงกับผู้ชายยิ่งนัก เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้มีสาวน้อยใหญ่ต่างก็ตกหลุมรักเธอ แต่ละวันจะมีหญิงสาวตามมาบอกรักหรือจีบเธอไม่ต่ำกว่า5คน ยกเว้นช่วงนี้ที่เข้าสู่ฤดูหนาวเลยไม่ค่อยจะมีคนเข้ามายุ่ง ถ้าจะมีส่วนมากก็ไม่เกิน3คนเท่านั้น..

"เมื่อไหร่จะหมดฤดูหนาวเสียทีนะ!!"
ฮานาโอกะ มาซารุได้กำชับผ้าคลุมให้แน่นขึ้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายที่แสนบอบบาง(?) พร้อมขยับเข้าไปใกล้ที่หน้าเตาไฟเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

"ให้ตายสิ! ทำไมยังไม่รู้สึกอุ่นล่ะ...."
เธอได้ถอนหายใจอย่างแผ่วเบาออกมา มือทั้งสองข้างประสานกันพร้อมกับถูไปมา เพื่อให้มือเธอนั้นได้รับความอบอุ่นถึงแม้มันจะน้อยนิดก็ตามที

"เข้าไปใกล้ขนาดนั้นเดี๋ยวก็โดนไฟเผาหรอกขอรับ"
เสียงนุ่มปริศนาดังมาจากข้างหลัง มาซารุเบิกตากว้างเพราะคิดว่าอาจจะเป็นบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นแล้วกำลังจะมาจ๊ะเอ๋เล่นกับเธอ จึงรีบหันขวับไปทันที

"ก็นึกว่าใคร...เจ้าเองงั้นหรอกหรือ โทโมกะ?"

"อือ ข้าเองขอรับ
มาซารุจับจ้องไปยังใบหน้าหวานของฮานะเมโระ โทโมกะ เด็กหนุ่มผมสีเหลืองทองที่อยู่ในเครื่องแบบอาภรณ์ของผู้ตรวจการณ์พร้อมกับดาบคู่กายขนาดใหญ่ หน้าม้าไฮไลท์สีแดงเล็กน้อย นัยน์ตาสีเขียวมรกตต่างจากนัยน์ตาของเธอที่เป็นสีเขียวมินต์

"ว่าแต่เจ้ามาทำอะไรที่แห่งนี้?" มาซารุถามออกไปด้วยความงุนงงเล็กน้อย เพราะนานๆทีเธอจะได้พบกับโทโมกะแบบนี้

"ก็กะว่ามานั่งเล่นกับท่านหลังจากที่ตรวจตรารอบเกาะเสร็จแล้วน่ะขอรับ" โทโมกะเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขินอายเล็กน้อยแล้วเดินลงไปนั่งข้างๆมาซารุ

"หนาวงั้นหรือขอรับ?"

"อือ...ก็หนาวน่ะสิ ไม่งั้นคงไม่มานั่งหน้าเตาไฟเช่นนี้หรอก..." ไม่ช้ามาซารุก็รีบเอาหัวซุกเข้าไปในผ้าห่มทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหนาวอีกครั้ง โทโมกะแอบขำเบาๆเมื่อเขาเห็นมาซารุเอาหัวซุกเข้าไปในผ้าห่มจนเหมือนตัวอะไรก็ไม่รู้

"นี่ ท่านมาซารุขอรับ"

"อะไร?" เธอเงยหน้าขึ้นมาจากผ้าห่มที่ซุกมองไปยังใบหน้าหวานนั่น ไม่รอช้าโทโมกะก็ถอดเสื้อคลุมไหล่ของตัวเองออกมาแล้วใส่คลุมเข้าไปที่ไหล่มาซารุ 

"อุ่นหรือไม่ขอรับท่านมาซารุ?" โทโมกะถามออกไปด้วยความสงสัยพร้อมกับเปลี่ยนท่านั่งไปเป็นนั่งชันเข่าแทน

"เจ้าเอามาให้ข้าทำไมล่ะ? แล้วเจ้าล่ะ ไม่หนาวหรือไงกัน?!?"
มาซารุถามโทโมกะพร้อมกับมองใบหน้าหวานนั่นอย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่ปกติก็เป็นคนที่แปลกพอสมควรแล้ว ยิ่งทำแบบนี้มันยิ่งดูแปลกไปใหญ่เลยมิใช่หรือไง? คนบ้าที่ไหนเอาผ้าคลุมมาให้คนอื่นใส่ทั้งที่ตัวเองก็หนาวกันเล่า!!

"เห็นท่านหนาว ข้าก็เลยเสียสละมาคลุมให้ท่านไงเล่า"

"แล้วเจ้าไม่หนาวหรือไงกัน! ข้ามิต้องการหรอกนะ!"

"ไม่ขอรับ ถึงท่านจะมิต้งการแต่มันก็ทำให้ท่านอุ่นใช่หรือไม่?"

มาซารุหยุดชะงักไปชั่วขณะ จะว่าไปมันก็จริงอย่างที่โทโมกะพูด ตอนที่นั่งห่มผ้าผืนหนาอยู่หน้าเตาไฟ เธอยังหนาวเสียจนอยากจะโดดเข้าไปนั่งอยู่ที่กองไฟในเตา แต่บัดนี้เมื่อมีเพียงผ้าคลุมไหล่มาคลุมกายเขาเพิ่มมันกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
มาซารุหันไปมองโทโมกะ ถึงจะน่าทึ้งที่มีเพียงผ้าคลุมไหล่มาคลุมกายจนทำให้รู้สึกอุ่น แต่เธอก็ควรจะขอบคุณเขาสินะ...

"ขอบใจเจ้ามากนะโทโมกะ"

"มิเป็นไรขอรับ"

"แต่ว่าที่มาหาแบบนี้ คงจะไม่ได้มานั่งเล่นกับข้าอย่างเดียวสินะ"
มาซารุพูดเอ่ยมันลอยๆออกมาอย่างมิได้ตั้งใจ

"สมเป็นท่านมาซารุเลยนะขอรับ" โทโมกะขบขันเล็กน้อยแล้วจับหยิบดาบคู่กายออกมาวางไว้ตรงหน้าของพวกเขาทั้งสอง

"รบกวนช่วยซ่อมให้ข้าด้วยขอรับTvT"

"เจ้านี่น้า......"


-E์ND-




---------------------------------------------------------------------------------

แอร้ยยยยย มาแล้วค่า เรื่องสั้นอีกแล้ว อยากจะแต่งสองคู่นี้มาแล้ว หลังจากที่โคออริกับรุ่นพี่ในเฟส ไหนๆก็ไหนแล้วเลยหยิบขึ้นมาแต่งเลยดีกว่า5555 เช่นเดิมค่ะ แต่งสดไม่มีการตรวจทาน(เพราะขี้เกียจ---) หวังว่าคงจะชอบกันนะคะ///////

วันพฤหัสบดีที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2560

【IDOLiSH7】Painful : Gaku x Ryu




IDOLiSH7
●AU
●Drama
●Yaoi
Gaku x Ryu
One Shot
●เรื่องสั้น
R-PG

'ตุบ...ตุบ'
เสียงของกล่องไม้ใบเล็กที่กระทบบนพื้นที่ล่องลอยอยู่เหนือจากพื้นดินเล็กน้อย กลีบของดอกซากุระที่กำลังเริงระบำพริ้วไหวบนสายลมหนาวในยามคำคืนอย่างงดงาม เสียงของดนตรีกำลังบรรเลงขึ้นอย่างเเผ่วเบากล่อมให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายหลับใหลในยามค่ำคืนนี้อย่างสงบ แสงจากเสี้ยวพระจันทร์ที่ประดับตกแต่งบนฝากฟ้ากำลังล่องลอยอย่างสง่างามให้เหล่าผู้คนที่อยู่บนพื้นดินได้จิบเหล้าชมจันทร์เสี้ยวไปพร้อมๆกัน

"จันทร์เสี้ยวคืนนี้ช่างงดงามยิ่งนัก''
สึนาชิ ริวโนะสุเกะชายหนุ่มนักแสดงละครในโรงละครคาบูกิได้เอ่ยขึ้น นัยน์ตาสีทองสุกสะกายได้จับจ้องไปที่จันทร์เสี้ยวประดับบนท้องฟ้า ไม่นานจันทร์เสี้ยวนั้นก็ค่อยๆถูกกลืนเข้าไปถูกบดบังอยู่ในเมฆาที่ล่องลอยมา

"หายไปเสียแล้ว"
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมาด้วยความผิดหวังทั้งที่เขาตั้งใจจะมาชมจันทร์เสี้ยวนั้นหลังจากที่แสดงคาบูกิเสร็จเรียบร้อย 

ผิดหวังไปได้ไม่นานลมหนาวก็พัดเข้าไปกระทบกับร่างสูง จนเขาต้องกำชับผ้าคลุมไหล่เพิ่มความอบอุ่นให้ตนเองมากยิ่งขึ้น....แต่มันไม่ได้ผลเพราะไม่ว่าจะคลุมห่มด้วยผ้าที่มันหนาเพียงใดก็ไม่สามารถทำให้อบอุ่นได้เลยเหมือนกับอยู่ท่ามกลางลมหนาวกับสายฝนที่ตกลงมาพร้อมๆกันเหมือนกับวันนั้น วันที่เขาถูกคนที่รักที่สุดทิ้งเขาไป.....
ไม่ว่าแสงแดดจะเข้ามากเพียงใดก็ไม่สามารถละลายความหนาวเหน็บนี้ไปได้ ไม่ว่าจะมากเพียงใดก็ไม่มีวันละลายไปได้เลยจริงๆ..งั้นหรอ?
.
.
.
.
.
.
.
.
ริวเพียงแค่หวังว่าซักวันคนรักของเขาจะกลับมารักเขาดั่งเช่นเดิม เพียงแค่หวังเสียเท่านั้นแม้มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลยก็ตาม ริวรู้ว่าเขาคนนั้นหมดรักเขาแล้วไปรักหญิงสาวตระกูลชั้นสูงแทน....

'ใครอยากจะรักคนชั้นต่ำที่แสดงละครอย่างข้ากันล่ะ...?'

ริวกรีดร้องพำเพ้ออยู่ภายในใจตน มือทั้งสองกอดพิณตัวโปรดพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมา ร่ำร้องเรียกชื่อคนรักอย่างเจ็บปวดใบหน้าซบเข้ากับพิณราวกับพิณนั้นคือคนรักของเขา

"ฮึก..ท่านกาคุ...ทำไมล่ะ ทั้งที่ข้ารักท่านมากมายเช่นนี้..."
เสียงบอกรักกระซิบออกมาแผ่วเบา ถึงแม้รู้ว่ากาคุไม่ได้ยินมันเขาก็จะทำเช่นนี้ไปตลอดจนกว่าหัวใจของริวนั้นจะได้รับการเยียวยา....หรือสุดท้ายเขาจะเป็นแค่คนเยียวบาหัวใจที่อ่อนแรงกันนะ?....

5เดือนต่อมา...
ยิ่งห่างเหินกันมากเพียงใด ยิ่งอยู่ลำพังมากเพียงใดความในใจของริวก็ยิ่งล้นออกมา แต่ถึงความในใจของริวจะมากเพียงใด ริวก็ไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ จำต้องซ่อนเอาไว้เหมือนจันร์เสี้ยวที่ถูกเมฆาบดบังดังเช่นวันนั้น 

เมื่อไม่นานมานี้ริวได้บังเอิญพบกับกาคุบ่อยๆจะเป็นฝ่ายริวคนเดียวที่พบเห็นกาคุ แต่กาคุนั้นไม่พบเห็นริว ตอนที่ริวพบกับกาคุเขาแอบหวังภาวนาไม่ให้กาคุนั้นเปลี่ยนไป ริวขอเพียงสิ่งนี้สิ่งเดียวที่ไม่อยากให้กาคุเปลี่ยนไป หากกาคุเปลี่ยนไปล่ะก็เขาคงจะหวั่นใจไม่น้อยหากต้องทำลายใบหน้าแดงๆของตนนั้นทิ้งไป...

"ฝน?"
สายฝนร่วงหล่นลงมาเป็นหย่อมๆ ก่อนที่จะตกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนริวต้องไปหลบอยู่ใต้ต้นไม้ที่อยู่ใกล้มากที่สุด

"ตกมาทำไมกันนะ"
สงสัยได้ไม่นาน นัยน์สีทองก็ไปสบเจอพบเห็นกับฉากที่เขาไม่อยากพบเจอมากที่สุด!!! ฉากที่กาคุกำลังเริ่มบทเพลงรักกับผู้หญิงคนนั้น...
น้ำตาของริวร่วงหล่นลงมาปนกับสายฝนบนใบหน้า ใบหน้าสีแดงจางๆเลือนหายไปพร้อมกับสายฝนเช่นกัน ในชีวิตของริวถึงจะเสียใจมาหลายเรื่อง แต่ไม่มีเรื่องไหนที่ริวเสียใจได้ขนาดนี้มาก่อนนัยน์ตาที่สั่นคลอด้วยน้ำตาพยายามไปมองบนฉากนั้นอีกครั้งยิ่งมองเท่าไหร่หัวใจมันยิ่งกรีดร้องบีบรัดกันอย่างเจ็บปวด เข่าค่อยๆทรุดลงไปกับพื้น เขาพยายามประคับประคองร่างกายให้ไปพิงกับต้นไม้อย่างหมดแรง

ไม่มีแรงเหลือจะเดินต่อไปอีกแล้ว

เสียงในหัวของเขามันร่ำร้องบอกริวแบบนั้น....ยิ่งพยายามยิ่งเจ็บมาก หัวใจของริวเปรียบเสมือนดอกสึบากิ พยายามเลิกที่จะสนใจกาคุมากแค่ไหนก็ได้แต่เจ็บปวดมากเท่านั้นดุจดังกองเกล็ดหิมะร่วงหล่นลงมาทับดอกสึบากิที่กำลังบานอยู่อย่างงดงามให้จมหายไป....

"แค่ก แค่ก"
หลังจากที่ริวนั่งแช่ตากฝนอยู่ที่เดิมอยู่นานจนคนในโรงละครได้พบเข้า จึงพาริวกลับมา สภาพร่างกายริวดูย่ำแย่ไม่ต่างอะไรกับคนที่ใกล้จะตายไปแล้วข้างหนึ่ง เจ้าของโรงละครจึงให้ริวหยุดทำการแสดงไปชั่วขณะเนื่องจากสภาพร่างกายไม่สามารถจะทำงานได้อย่างเต็มที่ และเช้ารุ่งขึ้นก็ทำให้ริวนั้นไม่สบายเนื่องจากตากฝนเป็นเวลานานมากๆ

ถึงจะรู้สึกผิดที่ร่างกายย่ำแย่จนไม่สามารถไปทำงานได้ แต่เมื่อพบเหตุการณ์ครั้งนั้น มันทำให้ไม่อยากริวลืมตาขึ้นมาอีกเสียแล้ว เขากลัว...กลัวว่าฝันที่เขาเคยวาดเติมแต่งเอาไว้มันพังทลายคนไม่เหลือชิ้นดี อาจจะตื่นขึ้นมาพบกับความเหนื่อยล้าทางร่างกายและหัวใจ 

"ก...กาคุ"
เสียงสั่นๆเอ่ยชื่ออดีตคนรักออกมาโดยมิได้ตั้งใจ ทั้งที่กาคุทำขนาดนั้นแท้ๆ ทำไมเขายังรักคนแบบนั้นกันอยู่นะ?
.
.
.
.
.
.
.
.
ยามราตรีมาเยือน ริวลากสังขารตนเองออกมายังระเบียง เงยหน้ามองบนท้องฟ้า ท้องฟ้ายามนี้มีดวงดาวน้อยใหญ่ประดับอยู่เป็นจำนวนมาก นัยน์ตาสีทองแหงนมองดูด้วยแววตาที่เศร้า คุกเข่าลงพร้อมกับภาวนาขอพรจากคำขอเล็กๆไป 

'หากเทพเจ้ายังเห็นใจข้า โปรดให้ข้าได้พบกับผู้นั้นอีกครั้ง'
ขอพรภาวนาไปพร้อมกับน้ำตาร่วงหล่นออกมา หวังว่าเทพเจ้าคงจะเห็นใจเขานะ

สุดท้ายถึงเทพเจ้ายังเห็นใจริว แต่ก็ยังคงกลั่นแกล้งให้พบอดีตคนรักของเขาที่หมั่นหมายพร้อมจะแต่งงานกันในไม่ช้า ถึงภายนอกริวจะดูปกติ แสดงความยินดีกับเขาเรื่อยไป ภายในใจนั้นเจ็บปวดแสนสาหัสราวกับโดนคาตานะร้อยเล่มมาทิ่มแทงลงมา

"ข..ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ"
ริวเอ่ยออกมาพร้อมรีบก้าวเท้ายาวๆเดินขึ้นไปบนห้องตนเอง เดินไปถึงห้องเขาก็เดินทรุดเข้าไปกอดพิณตัวโปรดตัวเดิมของเขา ปล่อยน้ำตาที่ไม่สามารถกลั้นเอาไว้ให้ไหลออกมา

'ทำไมเทพเจ้ายังไม่เห็นใจเขา'



'ทำไมเทพเจ้ายังกลั่นแกล้งเขาอยู่'



'หรือเขามิใช่คู่ที่เทพเจ้ากำหนดมาให้?'



'หากเป็นเช่นนั้นล่ะก็....'



'หัวใจของเขาคงจะถูกแช่แข็งซ่อนเอาไว้ไปตลอดกาล....'



---------------------------------------------------------------------------------

คงสงสัยสินะว่าทำไมถึงแต่งแปลกๆ อ่านแล้วรู้สึกติดขัด คำตอบนั้นก็คือ....แต่งสดคะ!! แต่งแบบเสร็จแล้วแต่ไม่ตรวจทานให้เรียบร้อยว่าโอเคมั๊ย ส่วนสาเหตุทำไมถึงไม่ตรวจ? คำตอบง่ายๆขี้เกียจค่ะ(.....)
ตอนนี้ที่แต่งออกมาได้แบบนี้เพราะเอาเนื้อหามาจากเพลงนี้คะ





วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

[IDOLiSH7] Beautiful corpse : Gaku x Ryu


Drama
Sm
IDOLiSH7
Gaku x Ryu
One Shot
R-15+


นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมยังคงจมอยู่ในความมืดมิดนี้

ทั้งบาดแผล ทั้งจิตใจ ยังคงถูกเขาทำร้ายอยู่เรื่อยมา

เมื่อไหร่ถึงจะดิ้นรนหนีจากความมืดมิดนี้ได้ซะที
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตั้งแต่วันที่ผมเข้ามาอยู่ในห้องมืดๆแห่งนี้ก็ได้ประมาณราวๆเกือบ3ปีได้มั้ง ตอนนั้นถ้าผมจำไม่ผิด ผมโดนมีดแทงเข้าไปนี่นา เขากระหนำแทงลงมาอย่างเดียวพร้อมกับพูดว่า

'นายเป็นของฉัน ห้ามไปยุ่งกับคนอื่น ต้องทำให้เละ คนอื่นจะได้ไม่ต้องสนใจนาย....'


ตอนที่แทงเสร็จก็ไม่ได้รับการเยียวยาจนเน่าเปื่อยเละไปเรียบร้อยแล้วล่ะ คงไม่มีคนหันมามองอย่างสมใจอย่างแล้วสินะ อันที่จริงถึงไม่แทงลงมาก็ไม่มีใครมองอยู่ดีก็ถูกขังซะขนาดนี้จะมีใครมามองเห็นกันล่ะ.....


แกร่ก......แอ๊ด....

ริวหันไปมองที่บานประตูแผ่นใหญ่ที่ถูกผลักออกมาอย่างเชื่องช้า ยาโอโตเมะ กาคุเดินเข้าพร้อมกับลงกรประตูเอาไว้อย่างแน่นหนาราวกับเขาจะหนีออกไป

"กลับมาแล้วริว คิดถึงฉันรึเปล่า?"
ร่างสูงเดินเข้ามาสวมกอดริว พร้อมกับสูดดมกลิ่นเหม็นเน่าของบาดแผลที่ไม่ได้รับการเยียวยามานานนับปี กาคุสูดดมเข้าไปราวกับมันเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้ที่หอมที่สุด ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย

"อืม.."
ริวตอบเสียงแผ่วในลำคอ สายตาที่ว่างเปล่าทอดมองไปยังกาคุ มือหนาที่เย็นเฉียบเข้าไปแตะที่แขนกาคุเบาๆพร้อมกับจับแขนทั้งสองนั้นให้คลายออกจากร่างตนเอง

"ทำไมล่ะริว?"
นัยน์ตาสีเทาจ้องมองไปยังใบหน้าคมเรียวอย่างไม่เข้าใจ แล้วจู่ๆดวงตาของกาคุก็เบิกกว้างเพราะมีความคิดบางอย่างผุดเข้ามาในหัวของเขา

'หรือว่าริวจะหนีเขาไป? ไม่จริงใช่มั๊ย เป็นไปไม่ได้ไม่น่าจะมีทางหนีแล้วหนิ?!'

"ป เปล่า แค่อึดอัดเฉยๆน่ะ"
ริวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย

"งั้นหรอ นึกว่าจะรังเกียจฉันแล้วหนีไปซะอีก"
"ไม่หนีหรอก..."
ถึงปากริวจะบอกไปแบบนั้น แต่ความจริงแล้วริวอยากจะหนีออกไปขุมนรกแห่งนี้ หนีออกไปจากความมืดมิด หนีออกไปจากคนโรคจิตที่มีหัวใจสีดำอย่างกาคุ

ครืด.....ครืด.....

เสียงสั่นโทรศัพท์ในเป๋าเสื้อของกาคุ ดังขึ้นออกมาทำลายท่ามกลางบรรยากาศอันน่าอึดอัดของทั้งสอง กาคุผละออกจากริวก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู 

'นิคไคโด ยามาโตะ'
แสงหน้าจอโทรศัพท์แสดงรายชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาในยามเวลาดึกดื่นแบบนี้อย่างชัดเจน กาคุถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะเดินไปปลดกรประตูแล้วลงกรล็อคเอาไว้แน่นหนาเช่นเดิม แล้วปล่อยให้ริวอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนั่นคนเดียวอีกครั้ง
.
.
.
.

'วันนี้กาคุไม่เข้ามา'

เสียงพึมพำเล็กๆออกมาจากริมฝีปากบาง แอบแปลกใจเล็กน้อยทั้งที่ปกตินั้นกาคุจะเข้ามาหาเขาทุกวัน แต่ยกเว้นวันนี้ 

บางทีเขาอาจจะมาช้าก็ได้นะ

เมื่อผ่านไปหลายชั่วโมงเห็นกาคุยังไม่เข้ามาหา ใบหน้าของริวปกติจากที่เรียบเฉย ตอนนี้กลับประดับด้วยรอยยิ้มจนไม่สามารถหุบลงได้ ตลอดระยะเวลาเกือย3ปีที่ผ่านมา ริวไม่เคยมีความสุขมากเท่านี้มาก่อน ตั้งแต่เขาถูกจับตัวมาไว้ที่ห้องมืดมิดแห่งนี้ ริวลุกยืนขึ้นแล้วค่อยๆลากสังขารตัวเองหาทางที่จะออกไปจากที่แห่งนี้ แม้ว่าหนทางนั้นจะมืดมิดไม่มีแสงสว่างแห่งความหวังก็ตาม

"อ๊ะ! นี่มัน..."
นัยน์ตาเรียวสีทองไปสะดุดเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ใต้เตียง ริวตัดสินใจใช้แรงทั้งหมดผลักเตียงให้เคลื่อนย้ายออกไป 

เมื่อเตียงถูกเคลื่อนที่ออก เขาก็ได้พบกับหลุมแห่งหนึ่งที่ดูจากสายตาริวแล้วน่าจะลึกพอสมควร พอจะเป็นทางหนีตอนนี้ให้เขาได้ เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นริวหยิบผ้าห่มจากเตียงมา อย่างน้อยก็ยังพอคลุมป้องกันตัวเองเอาไว้ได้ พร้อมกับไม้เก่าๆในห้องมืดมิดนั้นก่อนที่จะรีบวิ่งหนีลงไปในหลุมเพื่อที่จะไปหาแสงสว่างของตัวเขาเอง...


3ชั่วโมงแล้วที่ริววิ่งหนีจากกาคุมา 
ร่างสูงรีบก้าวเท้าวิ่งหนีออกมาให้ไกลที่สุด ตอน2ชั่วโมงแรกเขาคิดว่ากาคุจะวิ่งตามไม่ทัน แต่ซะที่ไหนได้....กาคุกลับวิ่งตามเขาได้เร็วยิ่งกว่าคนปกติทั่วไปเสียอีก!!!

"จะหนีไปไหนสึนาชิ ริวโนะสุเกะ หยุดเดี๋ยวนี้!!!!"
กาคุตะโกนร้องออกมาอย่างโกธรแค้นที่อีกฝ่ายหนีจากเขาไป มือทั้งสองข้างถือจับมีดดาบคาตานะไล่ตามริวไปอย่างคุ้มคลั่ง

"อย่าเข้ามานะ!!!"
ริวรีบสาวเท้าวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่ยอมหันหลังกลับไปมองกาคุด้วยซ้ำไป

ถ้าหยุดวิ่งก็จะต้องโดนจับขังอีกแน่ๆ ไม่เอา ไม่อยากอยู่ที่มืดมิดนั่นแล้ว ไม่อยากอยู่กับคนที่มีหัวใจสีดำอีกแล้ว!!!

แต่โชคดีได้ไม่นานริวก็ไปสะดุดเข้ากับก้อนหินขนาดเล็ก ทำให้ร่างสูงล้มลงหัวเข่าได้รับบาดเเผล มิหนำซ้ำข้อเท้าของริวยังพลิกอีก

ไม่นะ แย่แล้ว!!!! ทำไมจะซวยอะไรขนาดนี้กัน!!!

ริวรีบเช็คดูบาดแผลของตนเองว่าเป็นอะไรมากหรือไม่ ในขณะเดียวกันเสียงฝีเท้าของกาคุก็อย่างกายเข้ามาอย่างช้าๆ หัวใจริวตอนนี้กำลังเต้นอย่างระรัวหวาดกลัวคนที่กำลังจะย่างกายเข้ามาหา 

"ริว....นายรังเกียจฉันงั้นหรอ..." 
กาคุกำลังเดินใกล้เข้ามาหาริว

'ช...ใช่แล้วผมรังเกียจคุณ!!!'
ริวกล่าวในใจพร้อมกัยกระเถิบร่างถอยหนีตามสัญชาตญาณ

"ไม่รักฉันแล้วงั้นหรอ..." 
เขากำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

'ม...ไม่ผมไม่เคยรักคุณด้วยซ้ำ'
เขากระเถิบหนีกาคุจนตอนนี้หลังของเขาชิดไปที่กำแพงผนังดินของหลุมที่เขาใช้มันหนีกาคุ

"แต่ฉันรักนายนะริว...." 
กาคุหยุดอยู่ตรงหน้าริว ค่อยๆย่อตัวนั่งลงแล้วเอื้อมมือไปจับแก้มของริวเบาๆ ริวสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกจากมืออีกฝ่าย มันไม่ได้อบอุ่นอะไรเลย มันเย็นมากเย็นจนตอนนี้เขาเองกลัวไปหมดแล้ว


"รักจนอยากเก็บนายไว้คนเดียวเลยล่ะ....."
หลังจากที่กาคุพูดจบ เขาก็ทำอะไรบางอย่างกับริว เป็นสิ่งที่ริวจำได้ครั้งสุดท้ายว่ามีแสงสว่างเล็กน้อยก่อนที่จะดับมืดมิดไปตลอดกาล
.
.
.
.
.
.
.
.
"กลับมาแล้วริว"
กาคุเดินเข้ามาในห้องแล้วเดินไปนั่งบนเตียงที่มีร่างของใครบางคนนอนสงบนิ่งอยู่

"คิดถึงฉันหรือเปล่าริว?"
คำถามซ้ำๆเดิมๆที่ถามออกมาพร้อมกับกริยาเดิมๆที่แสดงออกของกาคุราวกับม้วนฟิมล์นั้นเล่นซ้ำแต่ตอนเดิมๆ

"......"

"งั้นหรอ วันนี้นายหอมมากกว่าเดิมเลยรู้มั๊ยริว"
กาคุกระชับกอดสูดดมร่างของริวแน่น กลิ่นเน่าเหม็นของศพโชยออกมาอย่างรุนแรง ถ้าเป็นคนอื่นตอนนี้คงจะหันหน้าหนีไปแล้วรีบร้อย ยกเว้นกาคุคนเดียวที่ไม่หันหน้าหนีออกไป

"....."

"ออ แล้วอีกอย่างน่ะริว"
กาคุพูดออกมาอย่างอ่อนโยน นิ้วเรียวแตะเข้าไปที่ริมฝีปากของริวเบาๆราวไม่อยากให้ของชิ้นนั้นต้องแปดเปื้อนหรือแตกหัก

"วันนี้ศพนายยังคงงดงามเช่นเดิมนะริว...."
.
.
.
.
.
.
.
.

-EIN-

---------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ ขี้เกียจซังเองค่ะ เป็นนิยายเรื่องแรกที่ลงในเว็บนี้ค่ะ!! เราแต่งสดอาจจะเมาๆและอ่านไม่รู้เรื่องเพราะไม่ได้เช็คด้วย----แค่กๆ ส่วนแรงบันดาลใจมาจากเพลงBLACK NIGHT สามารถกดฟังได้ -จิ้ม-และฟิคของพี่กิวค่ะ สามารถอ่านฟิคที่กิวได้ -จิ้ม-
 เอาเป็นว่าฝากด้วยนะคะ (^0^/)